หะดีษที่
9
كُنَّا
نُصَلِّيْ يَوْماً وَرَاءَ النَّبِيِّ
فَلَمَّا رَفَعَ رَأْسَهُ مِنَ الرَّكْعَةِ قَالَ: (سَمِعَ
اللهُ لِمَنْ حَمِدَه) ،قَالَ رَجُلٌ: رَبَّنَا
وَلَكَ الْحَمْدُ حَمْداً كَثِيْرا ًطَيِّباً مُبَارَكاً فِيْهِ. فَلَمَّاا
نْصَرَفَ قَالَ:
(مَن المُتكلِّم ؟) قَالَ: أَناَ
، قَالَ:
(رَأَيْتُ بِضْعَةً وَثَلَاثِيْنَ مَلَكاً
يَبْتَدِرُوْنَهَا، أيُّهُم يَكْتُبْهَا أَوَّلُ )
صحيح
البخاري
ความหมาย
เรากำลังละหมาดอยู่กับท่านนบี วันหนึ่ง
เมื่อท่านนบี
ได้เงยขึ้นจากรุกัวอฺและกล่าวว่า สะมิอัลลอฮุลิมันฮะมิดะฮฺ
มีชายคนหนึ่งกล่าวเสียงดังว่า “โอ้พระผู้อภิบาลของเรา
แท้จริงการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์แห่งพระองค์ท่านเท่านั้น
เป็นการสรรเสริญอันมากมาย ดีงาม และมีความจำเริญ”
เมื่อละหมาดเสร็จแล้วท่านนบี
ได้ถามว่าใครที่กล่าวการสรรเสริญเมื่อสักครู่นี้ ชายคนนั้นบอกว่า ฉันเอง
ท่านนบี กล่าวว่า “ฉันเห็นมลาอิกะฮฺ 30
กว่าท่านรีบบันทึกคำสรรเสริญอันนี้เพื่อเป็นผู้แรกในการบันทึก ”
http://www.islaminthailand.org/dp6/book/export/html/1964

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น