วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ดุอาอฺเสริมหลังจากรูกูอ


หะดีษที่ 9
كُنَّا نُصَلِّيْ يَوْماً وَرَاءَ النَّبِيِّ   فَلَمَّا رَفَعَ رَأْسَهُ مِنَ الرَّكْعَةِ قَالَ: (سَمِعَ اللهُ لِمَنْ حَمِدَه) ،قَالَ رَجُلٌ: رَبَّنَا وَلَكَ الْحَمْدُ حَمْداً كَثِيْرا ًطَيِّباً مُبَارَكاً فِيْهِ. فَلَمَّاا نْصَرَفَ قَالَ: (مَن المُتكلِّم ؟) قَالَ: أَناَ ، قَالَ: (رَأَيْتُ بِضْعَةً وَثَلَاثِيْنَ مَلَكاً يَبْتَدِرُوْنَهَا، أيُّهُم يَكْتُبْهَا أَوَّلُ )  
صحيح البخاري
ความหมาย เรากำลังละหมาดอยู่กับท่านนบี   วันหนึ่ง เมื่อท่านนบี   ได้เงยขึ้นจากรุกัวอฺและกล่าวว่า สะมิอัลลอฮุลิมันฮะมิดะฮฺ มีชายคนหนึ่งกล่าวเสียงดังว่า “โอ้พระผู้อภิบาลของเรา แท้จริงการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์แห่งพระองค์ท่านเท่านั้น เป็นการสรรเสริญอันมากมาย ดีงาม และมีความจำเริญ” เมื่อละหมาดเสร็จแล้วท่านนบี   ได้ถามว่าใครที่กล่าวการสรรเสริญเมื่อสักครู่นี้ ชายคนนั้นบอกว่า ฉันเอง ท่านนบี   กล่าวว่า “ฉันเห็นมลาอิกะฮฺ 30 กว่าท่านรีบบันทึกคำสรรเสริญอันนี้เพื่อเป็นผู้แรกในการบันทึก ”
http://www.islaminthailand.org/dp6/book/export/html/1964


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Disqus Shortname

Comments system