วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558

บทความ หุยฮาประชาธิปไตย

 

หุยฮาประชาธิปไตย

บรรจง บินกาซัน

 

สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ

ในที่ประชุมสมัยพิเศษเรื่องการตรวจอาวุธร้ายแรงของอิรัค ประธานาธิบดียอร์จ ดับเบิลยูบุชได้แสดงจุดยืนและท่าทีแข็งกร้าวในญัตติมาโดยตลอดว่าสหรัฐชาติมหาอำนาจผู้นำประชาธิปไตยของโลกจำเป็นต้องปลดอาวุธอิรัคและจะต้องโค่นอำนาจรัฐบาลซัดดัม ฮุสเซนลง

 

ญัตติดังกล่าวสร้างความงุนงงสงสัยให้แก่ชาติอาหรับและประเทศต่างๆที่สหรัฐและชาติยุโรปเรียกว่า ประเทศกำลังพัฒนาเป็นอย่างมาก แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ตัวแทนของชาติอาหรับที่ได้ชื่อว่าเป็นคนเลือดร้อนต่างวางตัวเฉย ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น คงปล่อยให้ตัวแทนจากชาติต่างๆในอาฟริกาเป็นคนพูด

 

ท่านประธานที่เคารพ ประเทศเราไม่เจริญก้าวหน้าเหมือนสหรัฐอเมริกาก็จริงอยู่ แต่รัฐบาลของเราก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมสหรัฐจึงดูเร่าร้อนที่จะโจมตีอิรัคเหลือเกิน อิรัคจะไปมีอาวุธร้ายแรงอะไรเหลืออยู่ ในสงครามระหว่างอิรัคกับอิหร่าน อาวุธที่สหรัฐให้อิรัคนั้นก็ถูกใช้ถูกทำลายไปจนหมดสิ้นแล้ว ขณะนี้ประชาชนอิรัคต้องเดือดร้อนเพราะความยากจน แต่พ่อค้าอาวุธของสหรัฐกลับร่ำรวย ในสมัยของประธานาธิบดียอร์จ บุช ผู้พ่อของท่านประธานาธิบดีสหรัฐคนปัจจุบันก็ถล่มอิรัคด้วยอาวุธจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว ทำไมถึงจะต้องจองล้างจองผลาญอะไรกันนักหนา ไอ้ที่ว่าอาวุธที่มีอานุภาพทำลายร้ายแรงสูงนั้น ผมอยากจะให้ท่านประธานาธิบดีสหรัฐช่วยชี้แจงหน่อยว่ามันถึงอะไรตัวแทนจากอูแกนดากล่าวในการอภิปรายตอนหนึ่ง

 

ขอเชิญท่านประธานาธิบดีสหรัฐชี้แจงครับประธานที่ประชุมสหประชาชาติกล่าว

 

ประธานาธิบดีสหรัฐยืนขึ้น ก็พวกอาวุธนิวเคลียร์ อาวุธชีวภาพและอาวุธเคมีที่จะมีอันตรายต่อชาวโลกครับท่านประธาน

 

ทันทีที่สิ้นประโยค ปรากฏว่ามีตัวแทนจากชาติต่างๆยกมือขึ้นขอพูดพร้อมกันจนตัดสินไม่ได้ว่าใครยกก่อน

 

เอาอย่างนี้แล้วกันครับ ขอเชิญตัวแทนคองโกประธานสหประชาชาติชี้ไปทางนั้น

 

ท่านประธาน อาวุธที่ว่านี้สหรัฐและประเทศอื่นก็มีอยู่ อิสราเอลก็มีอาวุธนิวเคลียร์เป็นร้อยลูก ทุกประเทศในโลกนี้ก็ทราบดีว่าสหรัฐให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอลมาโดยตลอด ถ้าประเทศเหล่านี้มี ทำไมเราไม่ปลดอาวุธร้ายแรงตามคำจำกัดความของประธานาธิบดีสหรัฐที่ชาติต่างๆครอบครองด้วยเล่าครับ ? อีกประการหนึ่งครับ การคว่ำบาตรที่ทำให้พลเมืองอิรัคทั้งเด็ก ผู้หญิงและคนแก่ผู้บริสุทธิ์จำนวนมากล้มตายไปนั้นมิใช่อาวุธร้ายแรงกระนั้นหรือ ?”

 

แต่สหรัฐไม่ได้มีไว้เพื่อรุกรานใครตัวแทนของสหรัฐประจำยูเอ็นลุกขึ้นมาสวนทันควันโดยที่ตัวแทนคองโกยังพูดไม่จบ

 

ผมขอเรียนถามหน่อยครับว่ามีครั้งใดในประวัติศาสตร์โลกที่อิรัคเคยยกทัพไปรุกรานสหรัฐ หรือชาวโคโซโวไปรุกรานยุโรป หรือชาวอินโดนีเซียเคยไปรุกรานออสเตรเลีย

 

ผมเองไม่ชอบซัดดัม เพราะเป็นทรราช มือเปื้อนเลือดพอๆกับนายแอเรียล ชารอน แต่ ผมชอบสปิริตแห่งความกล้าหาญและความรับผิดชอบของซัดดัมที่ท้าท่านประธานาธิบดีสหรัฐดวลปืนกันตัวต่อตัวจะได้จบๆกันไป ประชาชนชาวอิรัคและชาวโลกจะได้ไม่ต้องเดือดร้อน ซึ่งก็เป็นเรื่องถูกต้อง เพราะประชาชนของสองประเทศนี้ไม่เคยเป็นศัตรูต่อกัน ถ้าผู้นำทะเลาะกันก็ควรจะตัดสินกันในระดับผู้นำให้มันรู้แล้วรู้รอดไป

 

ขณะที่ตัวแทนคองโกพูดอยู่นั้น มีคนเห็นตัวแทนสหรัฐประจำสหประชาชาติเงี่ยหูฟังประธานาธิบดียอร์จ ดับเบิลยู บุช

 

ท่านประธาน ไม่เพียงแต่อิรัคจะมีอาวุธร้ายแรงที่เป็นอันตรายต่อชาวโลกเท่านั้น รัฐบาลอิรัคยังไม่เป็นประชาธิปไตยและริดรอนสิทธิมนุษยชนด้วย หากเราไม่เปลี่ยนแปลงการปกครองของซัดดัม ฮุสเซน อันตรายก็จะเกิดขึ้นในภูมิภาคแถบนี้ สหรัฐในฐานะผู้นำประชาธิปไตยของโลกมีภารกิจต้องดำรงรักษาประชาธิปไตยไว้ตัวแทนประจำสหประชาชาติของสหรัฐลุกขึ้นโต้แย้งเพื่อยืนยันจุดยืนของสหรัฐ

 

ตัวแทนจากเซียราลีโอนขออนุญาตอภิปรายบ้าง

 

ท่านประธานที่เคารพ เมื่อกี้นี้ที่ประชุมกำลังต้องการที่จะขอทำความเข้าใจจากสหรัฐในเรื่องความหมายของคำว่าอาวุธที่มีอานุภาพทำลายร้ายแรงสูง แต่แล้วประเด็นการอภิปรายก็เปลี่ยนมาเป็นเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน เอาละครับ ผมสรุปอย่างนี้ก็แล้วกันว่าเรื่องอาวุธร้ายแรงนั้น สหรัฐแกล้งโง่ ส่วนเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนนั้น ผมว่าท่านประธานาธิบดีสหรัฐไม่รู้เรื่องครับ รัฐธรรมนูญของสหรัฐเองก็ไม่ได้ระบุว่าสหรัฐต้องเป็นชาติประชาธิปไตยครับ และการเลือกตั้งก็ไม่จำเป็นว่าประเทศนั้นจะต้องเป็นประชาธิปไตยเสมอ ถ้าการเลือกตั้งหมายถึงประชาธิปไตย ทำไมเมื่อตอนที่ซัดดัมจัดให้มีการเลือกตั้งและได้รับคะแนนสนับสนุนจากประชาชนเต็มร้อย สหรัฐจึงไม่ยอมรับเล่าครับ ผมว่าการเลือกตั้งในอิรัคยังบริสุทธิ์มากกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดในสหรัฐเสียอีก มีครั้งไหนในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกาที่ใช้เวลาเป็นสัปดาห์ในการนับคะแนนในรัฐฟลอริดา ผมว่าถ้านายเจ๊บ บุช น้องชายของท่านประธานาธิบดีสหรัฐไม่ได้เป็นผู้ว่าการรัฐฟลอริดา นายยอร์จ ดับเบิลยู บุชคงไม่ได้เป็นประธานาธิบดีหรอกครับ สำหรับเรื่องสิทธิมนุษยชนนั้น อย่าให้ผมพูดดีกว่าครับ



พูดจบ ตัวแทนของเซียราลีโอนก็หันไปทางตัวแทนสหรัฐสักครู่หนึ่ง หลังจากนั้นจึงนั่งลง

 

ยังไม่ทันที่ก้นของตัวแทนจากเซียราลีโอนจะสัมผัสเก้าอี้ ตัวแทนจากชาติต่างๆก็ชิงกันยกมือขอพูด แต่เพื่อเห็นแก่สหรัฐที่เป็นผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ของสหประชาชาติ ประธานที่ประชุมจึงได้ชี้ให้ตัวแทนสหรัฐลุกขึ้นพูด

 

ท่านประธาน สหรัฐเป็นประเทศเสรีประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดของโลก เป็นแม่แบบของประชาธิปไตยที่ประเทศต่างๆยึดถือเป็นแบบอย่าง ด้วยระบอบประชาธิปไตยนี้เองที่สหรัฐจึงเป็นชาติเสรี เราภาคภูมิใจที่จะกล่าวว่าสหรัฐเป็นประเทศที่มีเสรีภาพมากที่สุดในโลก มากเสียจนขบวนการก่อการร้ายเกลียดชังเราและโจมตีประเทศเราเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 และสหรัฐก็ทราบว่าอิรัคมีสายสัมพันธ์กับอุซามะฮ์ บินลาดิน ดังนั้น สหรัฐจึงมีสิทธิ์ที่จะโจมตีผู้ให้การสนับสนุนผู้โจมตีสหรัฐ

 

ตัวแทนจากบูรุนดีลุกขึ้นอภิปรายบ้าง ท่านประธานที่เคารพ ถ้าขบวนการก่อการร้ายเกลียดชังเสรีภาพอย่างที่ตัวแทนสหรัฐอ้าง ทำไมอังกฤษและประเทศอื่นๆซึ่งเป็นประชาธิปไตยและมีเสรีภาพเหมือนกับสหรัฐจึงไม่ถูกผู้ก่อการร้ายโจมตีเล่าครับ ?……”

 

การอภิปรายยังคงดำเนินต่อไปในขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐลุกขึ้นเดินออกจากที่ประชุมไปห้องน้ำโดยมีบอดี้การ์ดตามไปส่งและเฝ้ารักษาความปลอดภัยให้ที่หน้าห้องน้ำ

 

เมื่อประธานาธิบดีสหรัฐทำธุระส่วนตัวที่โถถ่ายปัสสาวะเสร็จ แทนที่จะสบายจากการถ่ายทุกข์ เขากลับหน้านิ้วคิ้วขมวดเมื่อสายตาของเขาเห็นข้อความภาษาอังกฤษสั้นๆบนโถปัสสาวะซึ่งแปลได้ความว่า

 

ท่านประธานาธิบดี ขณะนี้ประชาธิปไตยอยู่ในมือของท่านแล้ว โปรดเขย่าก่อนเก็บ

เผยแพร่ Banjong Binkason


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Disqus Shortname

Comments system